วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อาจารย์ ตรีญา

อาจารย์ ตรีญา

ประวัติของอาจารย์ตรี  
          กำเนิดเดิมอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์  ได้สนใจในเรื่องไศยสาตร์ตั้งแต่ยังวัยเยาว์ โดยได้เห็นท่าน อาจารย์อุทัย (ปู่ของท่าน) มีผู้คนมาขอให้ช่วยเหลือ ทั้งรักษาและทางสายวิชา  จึงได้ขอศึกษาวิชา จาก อาจารย์อุทัย  แต่ท่านก็ไม่ให้ด้วยอายุยังน้อย แต่ก็ได้สังเกตุดูและจดจำมา ได้แอบดูตำรา เพราะความอยากรู้   

ครั้งเมื่อตอนประมาณอายุ 19 ปี ท่านจึงได้สอนและบอกให้เรียนวิชาไสยศาตร์ วิชาการรักษา ไล่ผี วิชาเสน่ สายที่บ้าน เป็นวิชาการทำสีผึ้ง  คนตายโหง ในหนึ่งปีจะทำได้หนึ่งครั้ง(เพ็ญวันจันทร์)   

และได้ขอความอนุเคราะห์จาก หลวงปู่คำสิง ซึงเป็นน้องชายต่างมารดาของท่านอาจารย์อุทัย ศึกษาสายวิชาทางบ้านเพิ่มอีก  ทั้งวิชาเสน่ ทำคุณไสยใส่คน  วิชากันตัวกันคุณไสย

และได้มาศึกษากับพระอาจารย์อาทิตย์ ที่สำนักสงฆ์ธารส่องธรรม(คลองถ้ำเต่า) วิชารักษาต่อกระดูก รักษาอํามพฤกอํามพาต วิชาน้ำมนต์ปรารถนา   วิชาถอดคุณไสย    วิชาพ่นน้ำมันเดือด   วิชาสักรักษา   

หลวงปู่โทนวัดเขาน้อยคีรีวัน   จ.ชลบุรี    วิชาเมตตา น้ำมันมนต์ นะสาริกา

อาจารย์หมอปุ้ย    วิชาสะกดผี ปราบผี 

พระอาจารย์สมเกรียติ จ.ขอนแก่น วิชา น้ำมนต์ถอน วิชาธรรมปิด และ กรรมฐาน

หลวงพ่อจำลอง  สำนักสงฆ์ถ้ำเขาตาจีน  จ.เพรชบุรี ศิษย์หลวงปู่ทอง วัดตะกล่ำ วิชากระบองเท้าเวสสุวรรณ

อาจารย์เดือน จ.ราชบุรี สายอาจารย์หนูทองศิริ วิชาสักยันต์ หน้าพรม และ ธงข้าง

อาจารย์ปู่ฤาษีโสรฬ จ.ขอนแก่น วิชาธรรมบรรลุ

ปู่ธรรมฝั้น จ.เลย วิชาธรรมบรรดาล

อาจารย์ฤาษีคัมภีร์  วิชา เสน่ห์

อาจารย์โต อินทาโภ  วิชาสักยันต์และนะต่างๆวิชา เป่าทอง    

และครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน  

และเพื่อนๆสหธรรมมิกที่เมตตราแลกเปลี่ยนวิชาคาถาอาคม      

อาจารย์ตรี มักสอนว่า        ”ไม่มีใครเก่งได้ถ้าไม่รู้จิต”


ติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/treeya.chaijit?fref=ts


อาจารย์ตรีญา
อาจารย์ตรีญา

อาจารย์ตรีญา
เพิ่มคำอธิบายภาพ

อาจารย์ ตรีญา

อาจารย์ตรีญา ฆราวาส อาคม ขลัง

อาจารย์ตรีญา ฆราวาส อาคม ขลัง

อ.ตรีญา ฆราวาส อาคม ขลัง

อ. ตรีญา ฆราวาส อาคม ขลัง


อ.ตรีญา ฆราวาส อาคม ขลัง






















อาจารย์ ปุ้ย เรืองฤทธิ์ สะพานใหม่

อาจารย์ ปุ้ย เรืองฤทธิ์ สะพานใหม่

หรือ อ. ฤทธ์ณรงณ์ รุ่งรัศมีโชติ


ประวัติ 
อาจารย์ปุ้ย ฤทธ์ณรงค์ 

ได้เริ่มสนใจศึกษาวิชาอาคมตั้งแต่อายุ 14 ปี 

หัดเขียนอักขระเลขยันต์ จดจำยันต์ และการเรียกสูตรแต่ยังไม่ได้ร่ำเรียนอย่างจริงจัง 

จนกระทั่งได้มีพระอาจารย์ ภาวรี สันตจิตโต เป็นพระเขมร ได้พาไปเขมร โดยการเดินทางไปทางสระแก้ว ที่นั่นได้พบครูฮีน ครูจ๊าสมัน เป็นครูไสยศาสตร์เวทย์มนต์ ได้ศึกษาวิชาสาลิกาลิ้นทองและ นะ หน้าทองผ่องโสภา เป็นนะมหานิยม เป็นเมตตาและแคล้วคลาดในตัว และครูฮีนก็เมตตาสักให้ที่แขนซ้ายเป็นสาริกาคู่มหานิยมอยู่เขมร 14 วันก็เดินทางกลับเข้าสระแก้ว และแวะหา ล.พ. ใหลวัดกุดเตย เมตตามอบวิชาเชือกคาดเอวกันภัย และ พระยันต์ตะขาบไฟเดินดง

หลังจากนั้นเมื่อปี 2547 ได้เดินทางไปพบสำนักสักยันต์ อาจารย์ต๋อย ดาบส และได้ขอศึกษาวิชาเรียนกับพ่อต๋อย ดาบส เป็นต้นมาเช่น วิชาสักยันต์เสือหัวขาด ฝังเข็มทอง นะฟันทอง เป็นเมตตา มหานิยม 

จากนั้น เรียนวิชาสักยันต์ กับอาจารย์โต อินทาโภ เมตตาสอนวิชาให้อย่างไม่ปิดบัง วิชาของอาจารย์ โต มีเยอะมากมาย เช่น ลงนะ พ่อคุ้มตัวลูก ครอบวิชาสัก และปั้นปู่ฤาษีโปร่งฟ้า และคาถาเสือคำราม จากนั้นก็เรียนวิชากับปู่มีโพธิ์ทอง ตำราสายหลวงปู่เชื้อ สะพานขาว อาจารย์ ปรุง โพธิ์อ่อน ตำรับยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า และยันต์ลงกระหม่อมกันอาวุธ 

อาจารย์เปิดสักยันต์ดูดวง ลงนะเมตตาถอนคุณไสยอาคม อาบน้ำมนต์เสริมโชคลงทองฝ่ามือเสริมโชคลาภ ลงนะฟันทองเสริมเสน่ห์เมตตา สักยันต์เสือมหาอำนาจ ฝั่งเข็มทอง เตือนภัย เมตตา สักยันต์มหาโชค ตุ๊กแกคาบธง


ติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100003402156293











อาจารย์ พงษ์ พุทธาคม

อาจารย์ พงษ์ พุทธาคม

อาจารย์ พงษ์ พุทธาคม

อาจารย์ สักยันต์ จอมขมังเวทย์ ชำนานทั้ง สัก เสก เลข ยันต์ ว่าน ยา คาถา อาคม โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ จัดว่ารอบรู้ไม่เป็นรองใคร


ประวัติ 

ของลูกจากสิงศักดิ์สิทธิ์

      หากจะกล่าวถึงชาติกำเนิด ของท่านอาจารย์ พงษ์ พุทธาคม แล้วละก็คงต้องเล่าย้อนความไปถึงสมัยที่คุณแม่ของอาจารย์ ท่านแต่งงานในช่วงอายุย่างเข้า 40 ปี นับว่าอายุมากแล้วสำหรับหญิงที่จะแต่งงานมีลูก ด้วยความเกรงว่าจะไม่มีลูกหรือมีแล้วไม่แข็งแรง เลยได้ไปบนบานวอนขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ตนนับถือ ในสมันนั้นมีศาลเทพาอันศักดิ์สิทธิ์ ของพ่อแก่แห่งเขาชีจรรย์ ที่ไม่ว่าใครไปลบหลู่ได้เห็นดี คนทรงประจำศาล ชื่อ แม่จำลอง เป็นร่างทรง ได้ประทับทรงองค์พ่อแก่ และได้บอกว่าจะให้มีบุตรสืบสกุล แต่ต้องยกให้เป็นลูกหลายพ่อแก่ 

แรกเกิดนั้น สุขภาพไม่แข็งแรง น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ทั้งยังเกิดมาไม่มีทวารหนัก จึงต้องได้รักการผ่าตัดแต่แรกเกิด คนโบราณในสมัยนั้นจึงแนะนำให้มารดานำไปฝากเป็นลูกพระ แม่จึงนำตัวไปถวายให้เป็นลูกพ่อแก่ตามคำสัญญา 
     คงจะด้วยเหตุนี้กระมั้ง จึงทำให้ท่านอาจารย์พงษ์ จึงมีวาสนาที่ต้องคอยพัวพันกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ

สัมผัสพิเศษ

     ถ้าจะกล่าวถึงชีวิตในวัยเด็กวัย3-7ปี ของท่านอาจารย์พงษ์ พุทธาคมนั้น นับเป็นการใช้ชีวิตแตกต่างจากเด็กทั่วไปโดยสิ้นเชิง เพราะแทนที่ท่านจะเที่ยวเล่นเหมือนเด็กทั่วไป ท่านกลับชอบปฏิบัติธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ พูดคุยสนธนาซักถามข้อหลักธรรมกับพระภิกษุ และพูดคุยเชิงความรู้กับผู้สูงอายุ
 นอกจากการพูดจาของท่านอาจารย์ ในวัยเด็กที่มีเหตุมีผล อิงหลักธรรมเหมือนผู้ใหญ่แล้ว ท่านยังมีสัมผัสพิเศษ ทำนายทายทักเหตุการล่วงหน้าได้แม่นยำ จนเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นเด็กพิเศษ จนสุดท้ายเรื่องชักไปกันใหญ่ ด้วยความเป็นห่วง แม่ท่านจึงสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวพูดคุย กับเรื่องราวทำนองนี้กับใครอีกเด็ดขาด ก็ถ้าลูกเป็นอย่างนี้ใครบ้างละจะไม่ห่วง

เรียนวิชาจากตำราบรรพบุรุษ


    อันชื่นว่าคนมีบุญวาสนาหนีอย่างไร ก็ใช่จะหนีพ้น โชคชะตาก็ขีดเส้นนำทางให้ต้องมาเป็นอาจารย์ช่วยคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่านอาจารย์ในวัย10 ปี ที่มักหาหนังสืออ่านไปเรื่อยเปื่อย จนไปซุกซนค้นหนังสือเก่าที่พ่อแม่เก็บใว้  และพบตำราของคุณปู่ชั๊วปู่ของท่านที่เป็นหมอกลางบ้าน มีทั้งตำราโหราศาสตร์ กับตำรายา แถวพบเสื้อยันต์ผู้โพกศรีษะและตำราเก่า ลายมือหลวงพ่ออี๋วัดสัตหีบ ที่คุณตาเฮงคุณตาของท่าน เคยเก็บรักษาไว้ ท่านได้แอบเรียนและจดจำนำมาช่วยผู้คนทดลองวิชาเรื่อยมา

มีครูปกปักรักษา

     ในขณะที่การช่วยคนก็ดำเนิมาเรื่อยๆ จนคุณพ่อคุณแม่ของท่านเริ่มยอมรับต่อโชคชะตา และเส้นทางชีวิตที่ท่านเลือกเดิน คุณแม่ของท่านอาจารย์ถึงจะเปิดใจยอมรับก็จริงอยู่ แต่ยังเกรงว่าหากไม่มีครูบาอาจารย์แนะนำสักวันต้องบ้าบอ เพี้ยนไปแน่ จึงได้พาไปหาครูดีๆให้เป็นครูที่ช่วยแนะนำให้ ซึ่งในสมันนั้นการจะหาครูบาอาจารย์ก็ไม่ใช่หากันง่ายๆ คุณแม่ท่านรู้จักเป็นเพื่อนสนิดคุ้นเคยกับร่างทรงท่านหนึ่ง ที่เป็นของแท้มีปาฏิหาริย์ปรากฏเป็นที่เด่นชัดให้คุณแม่ได้สัมผัส บ่อยครั้ง นั่นคือร่างทรงเจ้าพ่อนพเกล้า จึงได้นำลูกมาฝากตัวใช้ช่วยแนะนำ เมื่อเจ้าพ่อประทับทรงกลับให้ความสนิดเรียกท่านอาจารย์ว่าหมอน้อย และได้มอบขันต์ครูให้พร้อมบอกว่าเด็กคนนี้มีครูพ่อแก่รักษาอยู่แล้ว รับขันต์ไปเพียงเพื่อปฏิบัติก็พอ อนาคตจะได้สร้างบารมช่วยคนแน่นอน นับแต่วันที่ได้มีครูเป็นเรื่องเป็นราว วิชาที่ท่านมีก็ก้าวหน้าจนเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ใครเดือดเนื้อร้อนใจอะไรก็จะผ่อนคลายไปเมื่อได้รับการช่วยเหลือแนะนำ จากท่านอาจารย์พงษ์ พุทธาคม

สู่การบรรพชาแสวงหาสัจธรรม

     หลังจากการรับขันต์ครูมาศึกษาปฏิบัติ นานวันเข้าจิตใจท่านอาจารย์ก็ได้คิดถึงแต่การสร้างสมบารมี และการสร้างบารมีจะมีวิธีไหนดีไปกว่าการบวชได้ ท่านจึงคิดหวังถึงการบวชอยู่ตลอดมา จนเมื่อจบการศึกษามัถยมปีที่3 ท่านจึงขอคุณแม่ออกบวช แต่ท่านไม่ยอม ท่านจึงจำใจต้องหนีออกจากบ้าน โดยได้รับการช่วยเหลือจากพระภิกษุที่ท่านรู้จัก จนในที่สุดแม่ท่านก็ต้องจำใจยอมต่อข้อเรียกร้องในการบวช อาจารย์พงษ์ พุทธาคม ได้ออกบรรพชาเป็นสามเณร ติดตามรับใช้ครูบาอาจารย์ คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระครูสังฆรักษ์บุญส่ง อุปสโม ด้วยความสามารถและความเฉเลียวฉลาดของท่านอาจารย์พงษ์ ทำให้หลวงพ่อมีความเมตตาต่อท่านอย่างมาก ได้ติดตามหลวงพ่อเดินทางไปทั่วประเทศไทย มีโอกาศได้กราบนมัสการ รับฟังโอวาทธรรมะ คำสอน และความรู้มากมาย จากพระเกจิคณาจารย์ หลายรูป ทั่วประเทศ 


เรียนวิชาหาของจริงถึงชายแดนเขมร


หลังจากการบวชเณรศึกษาปฏิบัติได้นานถึง 3 ปีกว่า ได้ทราบข่าวว่าคุณพ่อป่วย และคุณแม่ก็ต้องคอยดูแล ถึงในใจท่านจะไม่อยากลาสิกขาแต่ก็ตัดใจสึกออกมาเพื่อทำหน้าที่ลูกที่ดี และปลงใจไว้ว่าหากมีโอกาศดี ภาระทางบ้านสิ้นสุดลงท่านคงได้บวชอีก ก่อนสึกท่านได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสนิดของท่านว่าควรหาวิชาสักยันต์ติดตัวไว้บ้าง หลังจากสึกแล้วก็ได้แสวงหาวิชาในฐานะฆราวาส ตามความสะดวกและเวลาที่ว่างเว้นจากการงานทางบ้าน 
จนได้พบครูสักท่านแรก คือ อาจารย์ประเวทย์ ซึ่งเป็นลูกชายของหลวงพ่อสมหวัง แห่งเขาสมิง ปรมจารย์ท่านหนึ่งในสายสักยันต์พ่อแก่ ได้ร่ำเรียนอยู่พอสมควร 
และได้รับการฝากฝังให้เป็นศิษย์ อาจารย์ยี แห่งโค้งสนามเป้า ซึ่งท่านเป้นศิษย์สายตรงจากท่านพ่อเยื่อ วงศ์น้อย ปรมจารย์ในตำนานของสายสักยันต์พ่อแก่
ต่อมาจึงได้ไปศึกษากับท่านอาจารย์วีรพงศ์ แห่งอำเภอพายุ จังหวัดศรีสะเกด ท่านอาจารย์พงษ์ได้ติดตามอาจารย์วีรพงศ์เดินทางธุดงค์เรียบชายแดนประเทศเขมร เพื่อเป็นประสปการในการศึกษาพบเจออาคมเขมรของจริง เรื่องราวที่ประสปมาคงไม่อาจนำมากล่าวให้จบลงในที่นี้ได้ คงบอกได้แต่เพียงแค่ว่าของในแถวชายแดนยังมีอยู่มาก แม้นแต่ทหารในแถบนั้นก็ยังไม่อยากที่จะ แตะต้องคณะเดินทางใดๆที่เดินทางในแนวธุดงค์ปฏิบัติในแถบนี้ เพราะเกรงในเวทย์วิทยาคม ก็ลองคิดกันเล่นๆดูซิว่า ใครจะอยากเอาชีวิตมาเสี่ยงกับของไม่เห็นตัว

หลังจากนั้นท่านอาจารย์พงษ์ ยังได้ออกเดินทางไปของเรียนวิชาจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่าน  ไม่ว่าจะเป็นสายฤาษี ทั้งในภาคเหนือ ภาคอิสาน และสายสักยันต์ในภาคกลาง
แล้วจึงมาศึกษาวิชาในสายหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่หน่ายวัดบ้านแจ้ง กับท่านอาจารย์โพธิ์ดำ

การศึกษาและปฏิบัติที่ไม่มีวันจบ


หลังจากการเที่ยวตระเวรศึกษาหาความรู้ไปทั่วทุกสารทิศ จนเป็นที่พอใจแล้ว ท่านอาจารย์พงษ์ พุทธาคม ก็ได้เปิดสำนักเพื่อเผยแพร่คุณธรรม วิชาความรู้ และช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนต่างๆ ด้วยวิชาความรู้ที่เล่าเรียนมา 
ไม่ว่าใครที่ได้มาฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน ท่านก็มักจะสั่งสอนศิษย์ให้ดำรงค์ตนอยู่ในศิลธรรม คุณงามความดี อย่าได้เอาวิชาที่ท่านให้ไปทำให้ใครเดือดร้อน มิเช่นนั้นกรรมก็อาจตกแก่ทั้งท่านและศิษย์ 
ถึงในทุกวันนี้จะมีคนเข้ามาฝากตัวเป็นศิษย์ท่านมากมายเพียงไหน ท่านอาจารย์พงษ์ ก็ยังคอยหาเวลาปฏิบัติ และศึกษาแสวงหาความรู้เพื่มเติม เพื่อพัฒนาตนให้ยิ่งๆขึ้นไป
ท่านบอกว่า "สำหรับท่านแล้ว เรื่องวิชามันเรียนได้ไม่รู้จบ ไม่มีวันอิ่ม ไม่มีวันพอ" 
จึงนับว่าท่านเป็นผู้คงแก่เรียนอย่างยิ่ง อันหาได้ยากในยุคปัจจุบันนี้


ตำราที่ท่านเรียนมามีตั้งแต่ การทำนายดวงชะตา ด้วยตำราต่างๆทางโหราศาสตร์ เลขศาสตร์ และอื่นๆอีกมาก
การลงเสน่ห์ ลงทอง นะเมตตา สาริกา นะ7จุด ต่อเส้นลายมือ ต่อชะตา พลิกชะตา เสริมราศรี สักเสกเลขยันต์ ลงคาถาอาคม อาบน้ำมนต์ สะเดาะพระเคราะห์ ทำเทียนเสริมดวง สืบชะตา ฆ่าอาถรรพณ์ไฝ-ปานบนร่างกาย ทำเครื่องรางต่างๆใว้เสริมตัวด้านเมตตา แคล้วคลาด มหาเสน่ห์ คงกระพัน เรียกว่ามีครบถ้วนเจนจบ

อาจารย์ท่านร่ำเรียนมาหลายสาย จนเป็นที่ยอมรับกัน ในกลุ่มอาจารย์ และลูกศิษย์ แถบ พัทยา สัตหีบ ว่ามีวิชาอาคม ตำหรับตำรา ร่ำเรียนมามาก อีกทั้งประสปการที่เจนจัด ในการทำพิธีต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงเป็นสุดยอดฆราวาสที่น่านับถือ อีกท่านนึงที่ต้องนำคุณงามความดี และจาริยะวัตรที่น่าเคารพ มาเผยแผ่ให้สังคมรับรู้ คำกลอนโบราณว่าใว้ว่า

เพชรย่อมฉาย ประกายกล้า ให้ปรากฏ
แม้นถูกบด บังอยู่ ในภูผา
เปรีบยเสมือน คนดี มีวิชา
อยู่ที่ไหน ไม่ไร้ค่า หน้าภูมิใจ

คนที่มีความน่าเคารพ น่าเข้าใกล้ น่าต้อนรับ น่าเกรงใจ มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกัน .. คือ
  1. ผู้มีคุณธรรมสูง เช่นพระอริยะบุคคล และผู้กระทำความดี
  2. ผู้มีสติปัญญา ความรู้ ความสามารถ
  3. ผู้มีสุขุมาลชาติ คือรูปร่างผิวพรรณงดงาม
เมื่อพิจารณาดังคำโบราณว่า ก็จะเป็นได้ว่า ท่านอาจารย์ท่านนี้ จัดเป็นยอดบุคคลที่น่านับถือ

สนใจติดต่อที่  https://www.facebook.com/profile.php?id=100005962051265&fref=ts

Id Line : pbbt 

ดูลายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://themagiccharmtalismanpattaya.blogspot.com/













วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อาจารย์ โพธิ์ดำ พระราม3

 อาจารย์ โพธิ์ดำ พระราม3 

















อันโนประวัติของอาจารย์โพธิ์ดำ เกิดพุทธศักราช ๒๔๙๙ อายุปัจจุบันราวประมาณ ๕๕ ปี 
ถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่จังหวัด พระนครศรีอยุธยา อำเภอ บ้านแพรก ได้เป็นเด็กวัดหลวงพ่อเขียว ซึ่งมีพระเกจิคณาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษประมาณ ๒-๓ รูป จึงมีความสนใจในเรื่องวิชาไสยศาสตร์ ลักษณะนิสัยเป็นฅนโลดโผน มีเพื่อนอยู่หลายจังหวัด

                ครั้งเมื่อตอนประมาณอายุ ๑๖ ปี ได้เรียนกับอาจารย์ฆราวาสชื่อ ปู่จัน อยู่อำเภอ บางน้ำเปรี้ยว ได้ศึกษาวิชาถุยน้ำลายใส่ผู้ใดแล้วคงกระพัน วิชาเสือ วิชาไก่แก้ว และวิชามหาเสน่ห์
                ได้ย้ายไปอยู่อำเภอ ปักธงชัย ได้เรียนกับหลวงพ่อนิล วัดครบุรีและหลวงปู่ก้อน วัดหลุมเงิน ได้ศึกษาวิชาธาตุทั้ง๔ ส่วนหลวงปู่ก้อน เป็นศิษย์ หลวงปู่โต วัดปอแดง และอาจารย์ของหลวงปู่โต คือสมเด็จลุน แห่งนครนครจัมปาศักดิ์
                แล้วย้ายไปอยู่จังหวัด ชลบุรี ตำบลบ้านสวน ได้ไปเรียนกับฆราวาสชื่อ อาจารย์สวาท สิทธิเลิศ เป็นหลานของพระยาบรรลือ ซึ่งเป็นโหราศาสตร์ในยุคสมัยของรัชกาลที่ ๔ และเป็นอาจารย์ของเล็ก โพธิ์ดำ ได้เรียนวิชาต่างๆจนหมดสิ้น  ส่วนตัวอาจารย์สวาท เองได้เป็นศิษย์ของ หลวงพ่อเหลือ วัดเขาชะโงก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ  และหลวงพ่อจัน ได้เป็นศิษย์รุ่นแรกของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

 แล้วได้ย้ายกลับมาจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ได้อุปสมบทเป็นสามเณรที่วัดหลวงพ่อเขียว

                 ได้เรียนวิชากับอาจารย์ฆราวาสชื่อ อาจารย์แจ ได้เรียนวิชามีดหมอพระขรรค์ชัยศรี วิชานะปัดตลอด วิชาสร้างรักยมแกะจากไม้เผาศพที่ไหม้ไม่หมด และวิชามหาเสน่ห์เรียกผู้หญิง ตัวท่านอาจารย์เแจเองสำเร็จวิชานะปัดตลอดสามารถเขียนอักขระตัวนะด้วยแป้งดินสอพองลงใส่ฝ่ามือแล้วเสกให้ไปติดที่ไหนก็ได้ตามใจนึก 
                 ได้เรียนอาจารย์ฆราวาสชื่อ ตามณี ได้เรียนวิชายาคงกระพันชาตรี วิชากำราบสัตว์ป่า และวิชาจับเส้นบนร่างกายของมนุษย์ ส่วนตัวของตามณีเองได้สำเร็จวิชาไตรเภท และไตรภูมิ อาจารย์ของตาที่ได้ร่ำเรียนมาเป็นควานช้างสมัยรัชกาลที่ ๕
                 เรียนกับวิชาจากน้าชายชื่อ น้ามี ได้เรียนวิชา ๗ ตัน วิชารักษาโรคทั้งคนและสัตว์ วิชาควายธนู วิชาหมานิล ส่วนตัวน้ามีเองมีเมียเป็นผีตานี และอาจารย์ของน้ามี คือ หลวงพ่อเภา วัดหัวสะพาน จังหวัด ชัยนาท เดิมเป็นคน อำเภอ บ้านแพรก ตัวหลวงพ่อเภาเอง ได้ลายแทงของหลวงพ่อคง ผู้เป็นอาจารย์ของขุนแผน ให้ไปเอาตำราอยู่ในโพรงต้นไม้ในป่า
                 เรียนกับหลวงตาหล่ำ หลวงตาเองเป็นพี่ชายของยาย และเป็นศิษย์ผู้น้องของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค แล้วยังเป็นศิษย์อาจารย์ด้วยกันกับหลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง ส่วนตัวหลวงตาหล่ำเองได้เรียนกับ หลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ วิชาหลักที่ได้คือพระขรรค์อันเรืองฤทธิ์ ,หลวงพ่อป่าน วัดบางนมโค ,หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ,หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม ,หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ,หลวงปู่จัน วัดนางหนู ,หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา ,หลวงปู่แช่ม วัดท่าฉลอง ,หลวงพ่อดำ วัดเขียนลาย และได้ไปเรียนกับเกจิคณาจารย์และฆราวาสอีกหลายคน ตัวหลวงตาหล่ำเอง ๑ ปีสรงน้ำครั้งเดียวและ สามารถเดินท่ามกลางสายฝนโดยที่น้ำฝนไม่เปียกตัวได้ แล้วได้ถ่ายทอดวิชาทั้งหมดที่ร่ำเรียนมาให้กับอาจารย์โพธิ์ดำจนหมด
                แล้วยังได้แนะนำให้ไปเรียนกับหลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นตา ของอาจารย์โพธิ์ดำ ได้ศึกษาวิชาจิ้งจกมหาเสน่ห์ วิชา ๙ ยอด วิชาปัดระเบิด และสรรพวิชาต่างๆจนหมด แล้วอาจารย์คนแรกของหลวงปู่หน่าย สมัยตอนเป็นสามเณรคือ หลวงพ่อกล่อม แสนยานนท์ หรือขุนโจรย่ามแดง แลัวได้พาหลวงปู่หน่ายไปฝากตัวเป็นหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าแล้วได้เป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ศุข และอาจารย์ของหลวงพ่อกล่อมเองคือหลวงปู่ศุขนั้นเอง
                 ได้ไปเรียนกับหลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู จังหวัด ลพบุรี ซึ่งเป็นพี่น้องข้างตา ได้ศึกษาวิชาทำรักรักยม วิชาปากพระร่วง วิชาตะกรุด ๑๐๘ ดอก วิชาลงกะหม่อม วิชานี้ลงผู้ชายคนไหนได้เขียนอักขระไว้บนหัวถ้ามีลูกชายเป็นคนแรก ยันต์นี้ก็ติดหัวลูกชายไปและ อีกมากมาย
                  ได้ไปเรียนกับหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช ได้เรียน วิชาตะกรุด ๔ มหาอำนาจ วิชาตะกรุดรัตนมาลา วิชาสักยันต์ ๔ สมิง
 ได้ไปเรียนกับหลวงพ่อน้อย วัดคลองไผ่ อำเภอ สีคิ้ว ศึกษาวิชามหาสะดุด วิชาขอเลขหวย วิชามหาโชคมหาลาภ วิชาเปลี่ยนดวงชะตาจากยากจกป็นดวงราชา
                         ได้ไปเรียนกับหลวงพ่อพา วัดกระโพ จังหวัดสุรินทร์ เรียนวิชาควายธนู วิชาถอนคุณไสย และยังได้เป็นเพื่อนกันกับพระอาจารย์นพวรรณ วัดเสนานิมิตร ซึ่งได้เรียนวิชามาพร้อมกัน
                         ได้เรียนวิชาหลวงพ่อเสาร์ วัดเขวาธะนัง จังหวัดศรีษะเกษ ได้เรียนวิชาลำอ๊อฟ
                         ได้เดินธุดงค์ข้ามไปฝั่งลาว เจอกันกับสามเณรจำรัส เป็นคนจังหวัดศรีษะเกษ
                          เรียนกับฤาษีชื่อว่า ปู่ขาวพะวอ ศึกษาวิชาเรียกของกายสิทธิ์ วิชาตัดเหล็กไหล วิชาเปิดถ้ำ วิชาธาตุทั้ง ๔ ของสมเด็จลุนและวิชาพันวอ เป็นสุดยอดวิชาสักยันต์สายคงกระพัน
                         ได้เรียนกับหลวงพ่อวงศ์ วัดปริวาสฯ ศึกษาวิชาอุดหัวใจรั่ว วิชารดน้ำมนต์ทางเทพร่างทรง แล้วได้ตำราสร้างกุมารทองเนื้อดิน ๗ ป่าได้มาจากในโบสถ์

ได้เรียนกับอาจารย์เจือ อยู่แถว วัดบางเพลิง อำเภอบางประหัน ได้ศึกษาวิชาหูทิพย์และตาทิพย์ ตัวอาจารย์เจือเองเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด อำเภอเสนา 
                         ได้รียนกับอาจราย์ส่ง่า อยู่อำเภอบางบาน ได้ศึกษาสรรพวิชามาหลากหลาย ส่วนอาจารย์สง่าเองเป็นศิษย์ของหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ
                         เรียนกับอาจารย์หวน อยู่อำเภอบ้านหมอ ได้ศึกษาวิชาตะกรุดหนังเสือ ของหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ซึ่งหลวงพ่อนอเองได้ไปเรียนกับเจ้าคุณนาค วัดอรุณฯ แล้วอาจารย์ของเจ้าคุณนาค คือสมเด็จโต วัดระฆังฯ
                         ได้เรียนกับอาจารย์พัน ซึ่งอยู่พะเนียดคล้องช้าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ศึกษาวิชาตะกรุดหายตัว ตำรายาสมุนไพรโบราณ
                         ได้เรียนกับอาจารย์ น้อย อยู่ใกล้วัดเขาสมอคอน จังหวัดลพบุรี ได้ศึกษาวิชาน้ำมนต์สาระพัดนึก และวิชาเล่นกสิน ซึ่งอาจารย์น้อย เป็นศิษย์ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ และยังได้ไปเรียนพร้อมกับหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
                         ไปเรียนกับตาของเพื่อน ได้ศึกษาวิชาตะกรุดคู่ชีวิต วิชาตะกรุดไตรมาส วิชาน้ำมันทาตา ตาของเพื่อนได้เป็นศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน บ้านของตาเองได้อยู่ตรงข้ามวัด
                         ได้ไปเรียนกับฆราวาสชื่อ ตาอยู่ อาศัยอยู่แถววัดนางนอง ได้ศึกษาวิชาหมากทุย วิชาพระปิดตา ส่วนตาอยู่นี้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
                        เรียนกับอาแปะหวด อยู่อำเภอเสนา ศึกษาวิชาฝังเข็ม วิชามหาประสาน วิชาคอดผ้าใส่ปากปลาหันปลาไม่เข้า ซึ่งอาแปะหวดเป็นศิษย์ของอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง
                        ได้ไปเรียนกับบังดิน ได้ศึกษาวิชายอดคัมภีร์อัลกุรอาน วิชาฉายเมฆหรือดูดวงบนท้องฟ้า เดิมที่บังดินเป็นเด็กวัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งหลวงปู่ศุข จึงได้สอนวิชาฉายเมฆให้แกบัง
    ได้ตำราเก่ามาจากวัดม่วง เจออยู่ในโบสถ์เก่า
                         ได้ตำราเก่าในโบสถ์วัดพระงาม อำเภอบางประหัน ตำราที่ได้มานี้เดิมของเป็นขอหลวงตาคำ คนแถวแถวนั้นเล่ากันว่าหลวงตตตาคำนั้นเป็นศิษย์ของสมเด็จโต วัดระฆังฯ
                         ได้ศึกษาวิชาสายวัดประดู่โรงธรรม ซึ่งเป็นตำราของสมเด็จนพรัตน์ วัดป่าแก้ว(วัดใหญ่ชัยมงคล)
                         ได้ศึกษาตำราเก่าของหลวงพ่อทัต วัดคฤหบดี ซึ่งในตำรานั้นได้มีวิชาเบี้ยแก้ วิชาลูกกันภัย วิชาไม้ท้าวกายสิทธิ์ และวิชาทำตะกรุดโทน หลวงพ่อทัตนั้นเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง
                         ได้ศึกษาวิชาทำราหูอมจันทร์และอมอาทิตย์ วิชาทำวัวธนู ของหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง ได้มาจากอาจารย์เสริม วัดบางปลา อำเภอบางเลน
                        ได้ศึกษาตำราเก่าของสำนักเขาอ้อ เป็นตำรามหาอิทธิฤทธิ์ ได้มาจากลูกศิษย์เป็นอดีตนายทหารเรือ
                         นอกจากนี้ยังได้วิชาสายรามัญ และสายกระเหรี่ยง  
                         ผู้ใดที่คิดเรียนวิชาทางด้านไสยเวทย์ ขอเรียนให้จริง ถือให้มั่น ขยันฝึก ก็สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ


                       สุดท้ายนี้ผู้ใดที่ได้สำเร็จวิชาธาตุทั้ง ๔ จะมีฤทธิ์เดชกว่าคนทั้งหลาย



เบอร์โทรติตต่อ 093-9958155 คุณมิ้น (เลขาอ.โพธิ์ดำ)

ธรรมเนียบ เกจิ อาจารย์ ฆราวาส จอมขมังเวทย์

ธรรมเนียบ เกจิ อาจารย์ ฆราวาส จอมขมังเวทย์



ในยุคปัจจุบัน จัดเป็นยุคแห่งเทคโนโลยี ที่ก้าวหน้า แห่งวิทยาการ ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังมีอีกแง่มุมนึงของสังคมไทย ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรม ประเพณี ที่เป็นศาสตร์โบาราณ เช่นการสักยันต์ หรือประกบพิธีตามความเชื่อ ที่เกื้อหนุนกับการดำรงค์ชีพ ให้มีความศิริมงคล ความสบายอกสบายใจเกิดขึ้น เพราะในปัจจุบันนี้ ถึงวิทยาการจะก้าวหน้าไปไกล แต่ก็ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่วิทยาศาสตร์ยังไม่อาจพิสูทได้ เช่น โยคีในอินเดียไม่ทานอาหารยังมีชีวิตอยู่ได้ และเรื่องของความเชื่ออีกมากมายที่รอให้เกิดการพิสูท


ดังนั้น จึงขอนำประวัติ ของเกจิอาจารย์ฆราวาส ต่างมาลงใว้ให้ผู้ที่สนใจ ใคร่รู้ ได้ศึกษา ชีวะประวัติทั้งในแง่โลก และแง่ธรรมะ การปฏิบัติตัว 


บุญกุศลใด อันจะเกิดมีขึ้นจากการเผยแพร่นี้ ขอให้บุญกุศลนี้จะแผ่ไปถึงทุกท่านที่สนใจในไสยศาสตร์ เทอญฯ..

ขอศาสตร์ของบรมครูจงอยู่คู่ลูกหลานไทย

By. BossZa.

ผู้จัดทำเว็ป